ปี 2012 ที่ผ่านมา Kodak ยักษ์ใหญ่ในวงการถ่ายภาพถูกยื่นฟ้องล้มละลาย บริษัทมีความผูกพันกับครอบครัวคนทั่วโลกมานานกว่า 100 ปี ด้วยเทคโนโลยีการถ่ายภาพที่ช่วยบันทึกความทรงจำของเราลงในรูปถ่าย พวกเขาไม่ได้ล้มละลายเพราะความไม่เชี่ยวชาญ แต่เป็นเพราะการตัดสินใจผิดพลาดครั้งใหญ่
แม้จะลงทุนไปนับล้านและคิดค้นกล้องดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพได้ในปี 1990 แต่บริษัทกลับเลือกพัฒนาฟิล์มถ่ายภาพต่อไปเนื่องจากเห็นว่ากล้องดิจิทัลมีคุณภาพของรูปถ่ายด้อยกว่า และนี่เองคือที่มาของความผิดพลาด
ต่างกับ Canon และ Nikon ซึ่งในตอนแรกไม่ได้ถูกมองว่าเป็นคู่แข่งของ Kodak มาก่อน พวกเขาก้าวเข้าสู่ตลาดกล้องดิจิทัลอย่างเต็มตัวท่ามกลางเสียงตอบรับอย่างรวดเร็วของลูกค้า ในที่สุดเมื่อ Kodak เริ่มมองเห็นความสำคัญของกล้องดิจิทัลบ้าง พวกเขาก็ไม่เข้าใจถึงความต้องการของลูกค้าเพราะกล้องของ Kodak นั้นเน้นความละเอียดของภาพถ่ายมากจนราคาไกลเกินเอื้อมสำหรับงบประมาณในครอบครัว สาเหตุที่ Kodak ต้องตายลงไปเป็นเพราะไม่ได้นำ ‘Design thinking’ มาใส่เข้าไปในนวัตกรรมและการพัฒนาธุรกิจของพวกเขานั่นเอง
ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา Design thinking เข้ามาเปลี่ยนโฉมหน้าของการทำธุรกิจให้มีแนวคิดสัมพันธ์กับความเป็นจริงมากขึ้น หัวใจของ Design thinking คือความเอาใจใส่ต่อความต้องการของคนที่เราออกแบบผลิตภัณฑ์หรือบริการเพื่อพวกเขา โดยเฉพาะเมื่อก้าวเข้าสู่ยุคของอินเทอร์เน็ต บริษัทระดับโลกต่างเปลี่ยนกฎการทำธุรกิจและใช้เทคโนโลยีใหม่เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย
ในยุคที่ความต้องการของผู้บริโภคมีความซับซ้อนขึ้น ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเทคโนโลยีคือตัวช่วยสำคัญในการตอบสนองความต้องการเหล่านั้น แต่การพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไปจะทำให้การมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างองค์กรกับลูกค้าลดลง ซึ่งจุดนี้เองที่ Design thinking เข้ามามีบทบาทในธุรกิจ เนื่องจากเป็นตัวช่วยสำคัญในการแก้ไขปัญหา อีกทั้งยังทำให้เราเข้าใจความต้องการที่แท้จริงของกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นอีกด้วย
ศึกษาแนวคิด Design thinking ความสำคัญของวิธีคิดเชิงออกแบบ และเรียนรู้การนำมาใช้งานให้ประสบความสำเร็จ ด้วย Visual Thinking Public Program Workshop จาก ADGES ร่วมกับ Brand Academy สถาบันชั้นนำระดับโลกด้าน Visual Communication ในวันที่ 17 มกราคม 2562 ณ โรงแรม Emporium Suites ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.adges.net/visualthinking