การหางานใหม่และมองหาคนที่เหมาะสมกับงานเป็นบทบาทหน้าที่ที่ปฏิเสธไม่ได้ของผู้หางานและเจ้าหน้าที่สรรหาผู้มีความเชี่ยวชาญ นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยียังส่งผลต่อการหางานและอุตสาหกรรมการทำงานอีกด้วย
อนาคตของการหางานอาจยังอยู่อีกไกลในสายตาของเรา แต่บางสิ่งที่แน่นอนก็คือ ผู้คนสามารถคาดการณ์เทรนด์บางอย่าง เช่น ปัญญาประดิษฐ์ ตัวตนบนโลกออนไลน์ และแอพพลิเคชั่นมือถือ เพื่อเปลี่ยนแปลงโลกของเราต่อไป
AI: การเพิ่มผลผลิตและพัฒนาความสัมพันธ์ของกระบวนการสรรหาบุคลากร
การทำความเข้าใจและยอมรับการเกิดขึ้นของ AI หรือปัญญาประดิษฐ์คือสิ่งสำคัญในปัจจุบัน เพราะมันมีความสำคัญต่อการสรรหาว่าจ้างและการหางานอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น Chatbot ระบบคัดกรองผู้สมัคร ไปจนถึงการสัมภาษณ์สุดอัจฉริยะ ในส่วนของผู้หางานเองก็ต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีใหม่นี้เช่นกัน ทั้งการเตรียมพร้อมเพื่อรับการสัมภาษณ์จาก AI การเขียนประวัติย่อหรือเรซูเม่ที่เป็นมิตรกับอัลกอริทึ่ม และโอกาสที่ต้องโต้ตอบกับ AI ตลอดกระบวนการหางาน
AI ช่วยเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพให้กับกระบวนการจ้างงาน โดยเพิ่มเวลาในการเตรียมการให้ผู้สมัครงานมากขึ้น ช่วยให้นายจ้างมีโอกาสปฏิสัมพันธ์กับผู้สมัครมากขึ้น
“AI ไม่ได้เข้ามาแทนที่นายจ้างที่เป็นมนุษย์ แต่มันช่วยให้เราใช้เวลากับผู้สมัครได้มากขึ้น” Denis Edwards หัวหน้าฝ่ายสารสนเทศ บริษัท Kforce กล่าว
ประสบการณ์ค้นหางาน ที่เหมือนกับการช้อปปิ้งออนไลน์
ปัจจุบันผู้สมัครงานมีโอกาสค้นหาข้อมูลของนายจ้างได้มากขึ้น ผู้หางานส่วนใหญ่มักมองหาบริษัทที่ตัวเองสนใจตั้งแต่ 16-18 แห่งเพื่อมองหาองค์กรที่น่าสนใจที่สุดคล้ายประสบการณ์ช้อปปิ้งออนไลน์ที่เราสามารถเลือกของที่สนใจก่อนซื้อ
นอกจากนี้พวกเขายังสามารถทำความรู้จักกับองค์กรเหล่านั้นได้ ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียงของแบรนด์หรือผู้บริหาร ไปจนถึงตำแหน่งงานว่างและข้อมูลเพิ่มเติมอื่นๆ โดยอาจมองหาข้อมูลเหล่านั้นผ่านเว็บไซต์หรือแพลทฟอร์มโซเชียลมีเดีย
ดังนั้นการตระหนักถึงความสำคัญในการสร้างข้อมูลและการบริหารจัดการชื่อของแบรนด์บนโลกออนไลน์จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนายจ้างในการดึงดูดผู้สมัครที่มีความสามารถและกระตือรือร้น ในขณะเดียวกันประวัติและชื่อเสียงบนโลกออนไลน์ของฝ่ายผู้สมัครก็สำคัญสำหรับนายจ้างเช่นกัน
การสร้างแบรนด์บนโลกออนไลน์อย่างมืออาชีพจะกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด
ปัจจุบันเราอยู่บนโลกออนไลน์ที่ประวัติย่อดิจิทัลมีความสำคัญพอๆ กับการหางาน เพราะความต้องการของนายจ้างมีเพิ่มขึ้น พวกเขาต้องการสัมผัสกับตัวตนของผู้สมัครให้มากที่สุด พวกเขาอาจค้นหาชื่อของคุณบน Google และตามรอยพฤติกรรมบนอินเทอร์เน็ตของคุณได้ทั้งหมด
ดังนั้นผู้สมัครงานจึงควรปรับพฤติกรรม สร้างชื่อหรือแบรนด์ของตัวเองบนโลกออนไลน์ให้มความเป็นมืออาชีพและเหมาะสม โดยมุ่งมั่นที่ความสำเร็จในการทำงานหรือด้านอื่นๆ
“งานพิสูจน์อนาคต” และการกลับมาของความปลอดภัยในงาน
ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาคนรุ่นมิลเลนเนียลเข้าสู่ตลาดแรงงานและต้องการงานที่ยืดหยุ่น ส่วนแรงงาน Gen Z หรือผู้ที่เกิดช่วงยุค 90 นั้นมองเรื่องความมั่นคงในการทำงานเป็นสิ่งสำคัญ ในส่วนของนายจ้างต้องมีการเตรียมการด้านการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาทักษะต่างๆ ให้กับพนักงานอย่างเหมาะสมด้วย เพราะในความเป็นจริง พนักงาน 7 ใน 10 คนกล่าวว่า การอบรมและการพัฒนาคือสิ่งที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจทำงานกับบริษัทนั้นต่อไป
การสมัครงานผ่านโทรศัพท์มือถือ
โลกยุคดิจิทัล โทรศัพท์เคลื่อนที่หรือมือถือสมาร์ทโฟนได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เราสามารถทำได้แม้แต่การสมัครงานระหว่างการเดินทาง การสมัครงานผ่านมือถือช่วยประหยัดเวลาอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีแอพพลิเคชั่นฟรีดีๆ ให้เลือกใช้เก็บข้อมูลเรซูเม่ เช่น Dropbox หรือ Google Drive ซึ่งผู้สมัครสามารถดาวน์โหลดจากแอพและอัพโหลดขึ้นหน้าเว็บสมัครงานได้ทันที
ในอนาคตที่จะมาถึง ผู้หางานและเจ้าหน้าที่ฝ่ายสรรหาจะสามารถนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มผลผลิตและพัฒนาประสิทธิภาพของกระบวนการสรรหาว่าจ้างได้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งาน Chatbot เทคนิคการสร้างแบรนด์ออนไลน์ และอื่นๆ
เตรียมความพร้อมเพื่อใช้เทคโนโลยีมาใช้ในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพกับหลักสูตรฝึกอบรมมากมายระดับอินเตอร์เนชั่ลนอลจาก ADGES สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม e-mail: marketing@adges.net หรือ 6688-028-1111 หรือเว็บไซต์ https://www.adges.net/