หนึ่งในข้อปฏิบัติที่สำคัญที่สุดสำหรับองค์กรก็คือ การทำให้มั่นใจว่าองค์กรหรือบริษัทเตรียมพนักงานที่มีความรู้ความสามารถให้พร้อมสำหรับการรับบทบาทเป็นผู้นำในอนาคต แต่ที่น่าประหลาดใจก็คือ มีเพียง 33% เท่านั้นที่ไม่ประสบกับปัญหาช่องว่างของผู้มีภาวะผู้นำ
นอกจากนี้ยังมีรายงาน เผยว่า 63% ของพนักงานหลายล้านคนรู้สึกว่านายจ้างของพวกเขาไม่ได้ส่งเสริมการพัฒนาทักษะความเป็นผู้นำให้กับพนักงานอย่างเต็มที่ ซึ่งนี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่มีส่วนต่อการตัดสินใจลาออกหรือทำงานต่อไปในบริษัท ถือ่ามีผลกระทบต่อการรักษาบุคลากรที่มีความสามารถอย่างมาก ดังนั้น หากคุณรู้สึกว่าองค์กรของคุณคือหนึ่งใน 77% ที่กำลังประสบปัญหาช่องว่างของผู้มีภาวะผู้นำ
นี่คือ 6 ขั้นตอนในการแก้ปัญหาช่องว่างของภาวะผู้นำที่คุณสามารถนำไปปฏิบัติได้ในองค์กร
1. ระบุตัวผู้นำที่มีศักยภาพ
มุ่งเน้นไปที่ศักยภาพไม่ใช่ประสิทธิภาพ แน่นอนว่าแนวคิดนี้ไม่ใช่การตัดเรื่องของประสิทธิภาพทิ้งไป แต่เป้าหมายของมันก็คือการเฝ้าสังเกตบุคลากรในปัจจุบันว่าทำหน้าที่ของพวกเขาได้ดีเพียงใด จากนั้นให้ประเมินความมุ่งมั่นต่อการเป็นผู้นำและความต้องการที่จะก้าวไปข้างหน้าของพวกเขา
2. ให้คำปรึกษาและสอนงาน (Coaching)
เสนอทิศทางการพัฒนาตัวเองและสนับสนุนให้พนักงานที่มีศักยภาพสูงเข้ารับคำปรึกษาหรือการสอนงานกับผู้เชี่ยวชาญที่เหมาะสมกับพวกเขา โดยกระตุ้นให้พนักงานและผู้สอนงานหรือผู้ให้คำปรึกษาใช้ Emergenetics® Profile เพื่อสนับสนุนให้เกิดการสื่อสารที่มีความหมายมากขึ้นและเพื่อให้พวกเขาเข้าใจกันได้ดีขึ้น สำหรับข้อมูลเชิงลึกและเคล็ดลับเพิ่มเติมพวกเขาสามารถเข้าถึงได้ผ่านแอพพลิเคชั่น ที่ชื่อว่า Emergenetics+
3. ท้าทายพวกเขาด้วยงานที่ไม่คุ้นเคย
ให้พนักงานแสดงศักยภาพด้วยการมอบหมายงานนอกเหนือไปจากหน้าที่รับผิดชอบประจำวัน การให้งานที่พวกเขาไม่คุ้นเคยจะช่วยจุดประกายความสนใจที่พวกเขาไม่เคยรู้มาก่อนและกระตุ้นการพัฒนาทักษะใหม่ๆ
ที่ Emergenetics เรามักจะรวมสมาชิกทีมจากสายงานที่แตกต่างกันเพื่อแก้ไขปัญหารวมถึงการค้นหาแนวคิดใหม่เกี่ยวกับผลประโยชน์ของบริษัท การรวมกลุ่มสมาชิกจากหลายแผนกและอยู่ในระดับที่แตกต่างกันจะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ในองค์กร นอกจากนี้ยังให้โอกาสให้พนักงานได้พัฒนาทักษะของพวกเขาอีกด้วย
4. โอกาสในการเรียนรู้ที่หลากหลาย
ให้โอกาสพนักงานจากการเรียนรู้หลายๆรูปแบบ คุณอาจเสริมความแข็งแกร่งด้านความเป็นผู้นำให้พวกเขาผ่านบทความด้านการศึกษา การพบปะชุมชนท้องถิ่น การสัมนาผ่านเว็บไซต์ทั้งแบบกลุ่มและแบบตัวต่อตัว ไปจนถึงการฝึกอบรมผ่านช่องทางออนไลน์ด้วยตัวเอง
หากคุณรู้โปรไฟล์ Emergenetics ของพนักงานแต่ละราย จะเป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้นในการเลือกแนวทางการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับพวกเขา เช่น พนักงานที่มีโปรไฟล์อยู่ในเชิงสังคม Social preference มักชอบที่จะเรียนรู้จากการร่วมมือกับผู้อื่น เป็นต้น
5. รวบรวมความคิดเห็นจากแบบสำรวจ 360 องศา
เพื่อให้คุณเห็นภาพรวมศักยภาพของแต่ละบุคคลมากยิ่งขึ้น การรวบรวมความคิดเห็นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ถือเป็นประโยชน์อย่างมาก นอกเหนือไปจากหัวหน้างาน คุณสามารถพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานของพนักงาน รับฟังความคิดเห็นจากลูกค้าและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในธุรกิจ ด้วยข้อมูลนี้คุณจะสามารถระบุทักษะที่พนักงานที่มีศักยภาพที่จะเป็นผู้นำเหล่านั้นต้องการพัฒนาต่อไปได้
6. ตระหนักถึงความสำเร็จของพนักงาน
ทุกคนล้วนชื่นชอบความรู้สึกเมื่อเป็นที่ยอมรับและประสบความสำเร็จ ดังนั้นเมื่อพนักงานของคุณบรรลุเป้าหมายของการพัฒนา อย่าลืมแสดงออกให้พวกเขารับรู้ว่าคุณมองเห็นความพยายามและความสำเร็จของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นการปรับตำแหน่งหรือโบนัส โดยเลือกใช้วิธีที่เหมาะสมที่สุด
สุดท้ายนี้ มีรายงานจากงานวิจัยชิ้นหนึ่งเผยว่า 87% ของพนักงานที่อยู่ในเจนเนอเรชั่นมิลเลนเนียล และ 69% ของผู้ที่เกิดเจนเนอเรชั่นอื่น มองว่าการสนับสนุนหรือให้โอกาสในการเติบโตและการเรียนรู้ทางอาชีพมีความสำคัญต่อพวกเขา ซึ่งนั่นคือเส้นทางไปสู่ความสำเร็จโดยรวมขององค์กรในที่สุด
สนใจการนำเครื่องมือ Emergenetics® มาใช้เพื่อพัฒนาและเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์กร สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ ADGES e-mail: marketing@adges.net หรือ 6688-028-1111 หรือเว็บไซต์ https://www.adges.net/