ถ้าเราดูในปัจจุบันจนถึงอนาคตอันใกล้เราควรที่จะนึกถึงการเปลี่ยนแปลงในองค์กร หลายองค์กรมองเรื่องภาวะผู้นำว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทุกคน บางองค์กรเลือกที่จะลงทุนในการสร้างผู้นำเฉพาะระดับสูงสุดขององค์กร แต่สำหรับองค์กรชั้นนำเลือกที่จะสร้างภาวะผู้นำให้กับคนทั้งองค์กร การเปลี่ยนแปลงทางความคิดที่สำคัญนี้คือ ภาวะผู้นำเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทุกคน เรามักที่จะคุ้นเคยในการสร้างและโอนถ่ายทักษะเวลาทำการพัฒนาพนักงานแต่ตอนนี้สิ่งต่างๆเปลี่ยนไปเร็วมาก สิ่งที่สำคัญมากไปกว่านั้นคือต้องให้พนักงานสามารถที่จะเรียนรู้และเติบโตในองค์กรมากกว่าที่จะเรียนรู้ทักษะหรือความรู้เฉพาะบางอย่างได้ ดังนั้นความสามารถในการเรียนรู้จะเปลี่ยนแปลงความสามารถในการนำนวัตกรรม นี่คือนวัตกรรมและทักษะในการเรียนรู้ที่องค์กรจำเป็นต้องมีสำหรับอนาคต
หลายๆองค์กรกล่าวว่าทรัพยากรบุคคลเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับบริษัท แต่หลายองค์กรยังไม่สามารถแสดงความเชื่อเหล่านี้ออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน อย่างแรกในองค์กรสิ่งที่สำคัญจะได้รับการวัด ส่วนสิ่งที่ไม่สำคัญจะถูกละเลย องค์กรต่างๆเลยมีความคิดที่จะวัดผลในเรื่องของพนักงานที่มีศักยภาพ โครงการการพัฒนาเราจะดูเรื่องการเติบโต และการเรียนรู้ในองค์กรของเราซึ่งมีตัวชี้วัดสำหรับงานดังกล่าว แต่แท้จริงแล้วเป็นเรื่องของการสร้างความมีส่วนร่วมรับผิดชอบของผู้ที่เกี่ยวข้อง ให้ผู้นำในทุกระดับมีส่วมร่วมในการพัฒนาบุคคลากรในทีมตัวเองและผู้นำถูกประเมินโดยใช้ความสามารถของคนในทีม เมื่อลองคิดดูจะเห็นว่าเป็นรูปแบบของการพัฒนาบุคคลที่ดีเพราะผู้นำจำเป็นที่จะต้องพัฒนาทักษะให้กับบุคลากรในทีม
อีกเรื่องหนึ่งคือการพัฒนาผ่านการทำโค้ชชิ่ง ไม่มีเทคนิคอะไรที่สำคัญของการเป็นผู้นำที่มากไปกว่าการเข้ามาช่วยคนในทีมให้เติบโตและเรียนรู้ได้ เพราะโค้ชที่ดีจะดึงเอาศักยภาพสูงสุดของคนในทีมออกมา โค้ชจะสามารถสร้างภาพในอนาคตที่ดีให้กับผู้อื่นได้ และโค้ชสามารถชี้ให้เห็นถึงทักษะและพรสวรรค์ของบุคคลนั้นพอเพื่อสามารถที่จะนำไปใช้ในการเติบโตของแต่ละคน
องค์กรชั้นนำส่วนมากมีโครงการพัฒนาบุคลากร บางองค์กรยังลงทุนและพัฒนาผู้นำให้มีทักษะการเป็นโค้ชอีกด้วย สำหรับองค์กรขนาดใหญ่มีความได้เปรียบในการลงทุนในโครงการพัฒนาทักษะให้กับพนักงานไม่ว่าจะหลักพันหรือหลักหมื่น แต่ด้วยความก้าวหน้าอย่าง Online หรือ Digital Technology เปิดโอกาสให้องค์กรขนาดเล็กสามารถเข้าถึงโครงการพัฒนาทักษะที่เมื่อก่อนอาจจะเข้าไม่ถึงที่มีทางเลือกมากมายสำหรับการเรียนแบบ online แต่สิ่งที่ท้าทายคือการนำเอาไปใช้มากกว่า
งานวิจัยได้บอกเราว่า การเรียนรู้และเนื้อหาเพียงส่วนน้อยจาก Online Program สามารถเอาไปใช้งานโดยปราศจากผู้นำที่เป็นโค้ชเพื่อสามารถช่วยให้เอาไปใช้ในงานได้จริง อย่าง Online Learning สามารถถูกนำเอาไปใช้ได้ดีสำหรับทักษะที่เกี่ยวข้องกับขบวนการคิด สิ่งที่น่าสนใจก็คือภาวะผู้นำเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ ไม่มีอะไรสามารถมาทดแทนการเรียนรู้ตัวต่อตัวระหว่างบุคคลซึ่งเป็นขบวนการที่ทรงพลังมากแต่ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่สามารถให้เราเรียนรู้แบบ Online พร้อมกับสามารถให้มีการพูดคุยแบบกลุ่มเล็กๆ การทำโค้ชชิ่งในกลุ่มเล็กหรือสามารถพูดคุยเรื่องสำคัญเป็นกลุ่มเล็กๆได้ เพราะฉะนั้นการเรียนรู้แบบผสมระหว่าง Online และการเรียนรู้แบบมีผู้สอน (Instructor - Led) เป็นวิธีที่ทรงพลังที่สุดในการสร้างทักษะใหม่ๆให้ผู้เรียน เช่น ทักษะการโค้ช การสื่อสารอย่างผู้นำ ความฉลาดทางอารมณ์ และทักษะสำคัญในการสร้างผลกระทบต่อผู้อื่นในทางบวก