top of page
Writer's pictureADGES

10 ขั้นตอนการเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพในวิกฤต Coronavirus

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับช่วงวิกฤตคุณจะยืนขึ้นเพื่อท้าทายปัญหาต่างๆหรือจะล้มลง?

ในสถานการณ์ที่เลวร้ายผู้นำต้องเป็นผู้นำทางให้กับสมาชิกในทีม ทุกวิกฤติจะมีโอกาสให้ผู้นำสามารถทำสิ่งที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ให้ดีขึ้นได้ เหมือนดั่งเช่นนักดับเพลิงที่เข้าไปดับไฟในอาคารที่กำลังลุกไหม้ต้องมีสติและการตัดสินใจที่รวดเร็วเพราะชีวิตและธุรกิจขึ้นอยู่กับมัน

วันนี้ทาง ADGES ได้นำ10 วิธีที่ผู้นำสามารถก้าวสู่ความท้าทายในสถานการณ์ COVIC-19 มาให้อ่านกัน ดังนี้

1. ปรับความคาดหวัง

ในภาวะวิกฤตคุณจะไม่ได้รับคำตอบทั้งหมด แต่จะต้องรับมือแก้ไขปัญหากับสิ่งที่ไม่รู้จักและพูดออกมาอย่างมั่นใจเพราะพนักงานจะคาดหวังการกระทำจากคุณ การจัดความคาดหวังและความเป็นจริงต้องใช้ทักษะความเข้าใจ ข้อมูลเชิงลึกและความอดทนเช่นเดียวกับความสามารถที่จะยอมรับว่าคุณไม่ได้มีคำตอบในทุกเรื่อง แต่ผู้นำจะเอาชนะอุปสรรคด้านการสื่อสารและสามารถบอกแจ้งข้อมูลให้แก่ทุกคนได้เร็วอยู่เสมอ

2. ทุกสายตาจับจ้องคุณอยู่

บางครั้งผู้นำมักจะลืมไปว่าทุกสายตาจับจ้องไปที่เขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อความรุนแรงของสถานการณ์เพิ่มขึ้น ในช่วงเวลาเช่นนี้ผู้คนจะมองไปที่ท่าทางของผู้นำ มองหาคำพูดแนะนำหรือการกระทำเพื่อต้องการการชี้นำทาง ในสถานการณ์นี้มันก็เหมือนกับเมื่อคุณพบกับความวุ่นวายในเที่ยวบิน คุณจะมองไปที่ลูกเรือและสัญญาณจากพวกเขา ผู้นำที่ดีต้องรู้จักตัวเอง คุณจะต้องเป็นมากกว่าสิ่งที่ทำให้คุณเป็นคุณ ไม่ว่าจะเป็น ค่านิยม คุณสมบัติ ความสามารถและประสบการณ์ ความท้าทายของผู้นำคือการมองตัวเองจากข้างนอกเพื่อทำความเข้าใจว่าคนอื่นจะมองเห็นและรับรู้ว่าคุณเป็นผู้นำอย่างไร การตระหนักรู้ในตนเองเป็นอีกหนึ่งความสามารถที่สำคัญที่ผู้นำต้องพัฒนา

3. มองโลกในแง่ดี

The pessimist complains about the wind. The optimist expects it to change. The leader adjusts the sails." -- John Maxwell

“ ผู้มองโลกในแง่ร้ายบ่นเรื่องลม ผู้มองโลกในแง่ดีคาดหวังว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง แต่ผู้ที่เป็นผู้นำจะปรับใบเรือ "

มองโลกในแง่ดีเท่าที่จะทำได้ ประสิทธิภาพของผู้นำในช่วงวิกฤตินั้นมีผลกระทบที่สำคัญต่อองค์กร อย่างการมีความคิดเชิงบวกและการกระทำมุ่งเน้นไปที่จุดแข็ง ความสำเร็จ โอกาสต่างๆและความร่วมมือ ผู้นำต้องเปล่งประกายความหวัง ความเชื่อมั่นและการมองโลกในแง่ดีเพื่อจะนำพลังงานบวกเหล่านี้ไปสู่พนักงานเพื่อให้มีความมั่นใจและเป้าหมายในการทำงาน

4. บอกความจริง

การสื่อสารเป็นจุดอ่อนของคุณ ในระยะวิกฤตมักรวมถึงข้อมูลที่ผิดพลาดที่นำไปสู่ความสับสนได้ ผู้นำควรอธิบายปัญหาอย่างตรงไปตรงมาโดยมุ่งเน้นไปที่ขั้นตอนเชิงบวก เลือกใช้คำอย่างชาญฉลาด มีความสอดคล้องและชัดเจนในการสื่อสาร

5. รู้ว่าคุณยืดหยัดเพื่ออะไร

เมื่อมีคนถามคุณในฐานะผู้นำว่าคุณยืดหยัดเพื่ออะไร - คุณจะตอบว่าอย่างไร? จุดมุ่งหมาย ภารกิจและค่านิยมของคุณคืออะไร? ทุกการกระทำควรสะท้อนถึงสิ่งเหล่านี้ ไม่ใช่เพียงแค่ยืนหยัดเพื่ออะไรสักอย่าง แต่สิ่งที่แตกต่างที่คุณได้ทำบนโลกใบนี้และแบ่งปันสิ่งที่คุณยืนหยัดเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่นให้ทำแบบเดียวกัน

ผู้นำที่มีประสิทธิภาพต้องทำงานจากจุดมุ่งหมายที่วางไว้ การมี mission ที่สูงขึ้นจึงต้องควบคู่มาด้วยกับการสร้างแรงบันดาลใจและกระตุ้นการทำงานของทีม "คุณ" ในฐานะผู้นำคือแบรนด์ อย่าพลาดโอกาสในการเป็นผู้นำและสร้างตราสินค้าของคุณในช่วงวิกฤตเช่นนี้ ในงานวิจัยของ RBL Group พบว่าบริษัทที่มี Leadership Brand มักสร้างความเชื่อมั่นและแรงจูงใจให้กับพนักงานได้ดี นอกจากนี้พวกเขายังมีคำมั่นสัญญาที่จับต้องได้ในวัฒนธรรมองค์กร นโยบาย และความคาดหวังของพนักงานได้อีกด้วย อย่าพลาดโอกาสในการเป็นผู้นำและสร้างตราสินค้าของคุณในช่วงวิกฤตเช่นนี้

6. แสดงให้เห็นถึงความเอาใจใส่

ฟังเพื่อเข้าใจ แสดงให้คนเห็นว่าคุณใส่ใจอย่างแท้จริงถึงมุมมองของพวกเขา รู้รับและตอบสนองต่อพฤติกรรมและอารมณ์ของพวกเขา โปรดจำไว้ว่าการเอาใจใส่ไม่ใช่เป็นสิ่งที่คุณต้องการ แต่เป็นสิ่งที่คนอื่นต้องการ ดังนั้น การกระทำของคุณควรเป็นประโยชน์แก่พวกเขา

7. ดูภาพรวม

ผู้นำสามารถเห็นภาพรวมและมองผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้นานก่อนที่ผู้อื่นจะเห็น เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องย้อนกลับไปสังเกตและทำความเข้าใจกับสถานการณ์ เหมือนคำกล่าวที่ว่า "คุณไม่รู้ว่าคุณไม่รู้อะไร"

ผู้นำจะต้องมีความคิดกว้างพอที่จะเปิดรับสิ่งที่พวกเขามองไม่เห็น หนึ่งในสิ่งที่ยากที่สุดที่จะทำในช่วงวิกฤตคือการถอยออกจากการจัดการปัญหาแบบเร่งด่วนในขณะที่ยังคงต้องมุ่งเน้นไปที่ภาพใหญ่

8. ช้าลงและสงบสติอารมณ์

ใจเย็นและเดินหน้าต่อไป! คนในทีมต้องการความรู้สึกปลอดภัยและมั่นคง แต่ความสงบของผู้นำต้องรวมความว่องไวและความอดทนเพื่อลดผลกระทบจากความไม่แน่นอน ดังนั้นจำเป็นต้องดูแลตัวเองทั้งด้านร่างกายและจิตใจเพื่อให้คุณสามารถเผชิญหน้ากับสิ่งต่างๆได้อย่างเต็มที่

9. มีแผนการ

"The very essence of leadership is that you have to have vision. You can't blow an uncertain trumpet." --Theodore M. Hesburgh

สาระสำคัญของความเป็นผู้นำคือคุณต้องมีวิสัยทัศน์ หากคุณไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน คุณก็จะไม่มีวันไปถึงที่นั่น โฟกัสและมีระเบียบวินัยเป็นสิ่งที่จำเป็น จินตนาการมองถึงความสำเร็จและพัฒนาแผนการที่ง่ายต่อการเข้าใจและมีความยืดหยุ่นในการรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่รู้จัก

10. เพียงเป็นผู้นำ

สิ่งที่ผู้นำต้องทำก็คือนำทาง พวกเขาจัดการกับวิกฤตที่เกิดขึ้นด้วยความกล้าหาญ ความฉลาดทางอารมณ์และความซื่อสัตย์ ผู้นำต้องเตรียมตัว ไม่ต้องตกใจง่าย สามารถดูแลและสื่อสารกับคนในทีม ผู้นำคือคนธรรมดาที่ทำสิ่งที่พิเศษ พวกเขามองเห็นโอกาสในวิกฤติเพื่อจะเปลี่ยนแปลงตัวเองและสิ่งต่างๆรอบตัวพวกเขา

อย่าพลาดโอกาสในการเป็นผู้นำ – ลุกขึ้นเหนือความโกลาหล กำจัดความวุ่นวายและวิกฤตเมื่อทุกอย่างดูเหมือนเป็นไปไม่ได้พึงระลึกไว้ โลกต้องการคุณ

133 views0 comments
bottom of page