‘Every day is a crisis, don’t let the crisis go to waste.”
เมื่อพูดถึงพี่จี๊ดหรือคุณปัทมาวลัย รัตนพล แล้ว หลายคนคงนึกถึงผู้บริหารมืออาชีพและ CHRO รุ่นใหญ่ที่สามารถเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรอย่าง Minor Group ให้เป็นบริษัทชั้นนำของโลกที่ไม่ใช่แค่ในประเทศไทย พี่จี๊ดเองถือว่าเป็น HR ต้นแบบให้กับหลายองค์กรในประเทศไทย เห็นได้จากในทุกเวทีถ้าต้องการแนวคิดที่ practical ของ HR แล้ว จะเห็นพี่จี๊ดยืนอยู่ในเวทีมาตลอดระยะเวลา 20 กว่าปี ซึ่งถือว่าไม่ธรรมดาเลย
และเมื่อบริษัทที่ผมเป็นที่ปรึกษาให้อย่าง Siam Piwat เริ่มที่จะทำ Inspiring Talk เพื่อกระตุกต่อมความคิดให้กับผู้บริหารระดับสูงสุดขององค์กร Keynote Speaker ท่านแรกๆที่พวกเรานึกถึงก็คือพี่จี๊ดนั่นเองเพราะว่าในสถานการณ์ covid หลายองค์กรยังงงๆและยังตั้งหลักไม่ถูก แต่ประสบการณ์ที่ผ่านมาสอนให้เราเห็นว่าบางครั้งสิ่งที่น่ากลัวกว่าการไม่รู้ว่าจะทำอะไรก็คือการไม่ลงมือทำอะไรนั่นเอง
หลังจากที่ต้องลุ้นว่าพี่จี๊ดพอจะมีเวลาให้พวกเราหรือไม่ เมื่อพี่จี๊ดคอนเฟิร์มว่ามาได้ ก็ต้องขอบคุณทาง Siam Piwat ที่ไว้ใจให้ผมเป็นผู้ดำเนินรายการและวิทยากรร่วมใน Session ที่มีชื่อว่า Leading High Performing Team in the New Normal ขออนุญาตสรุปใจความสำคัญที่ได้เรียนรู้ใน Session ประมาณ 45 นาทีจากพี่จี๊ด เพราะเนื่องจากเป็น Session ปิดคนข้างนอกเลยไม่มีโอกาสได้ฟัง แต่เลือกเฉพาะเนื้อหาที่พอจะแชร์ได้เพราะคิดว่าน่าจะมีประโยชน์ดังนี้นะครับ
1. Sense of Urgency พี่จี๊ดถามผู้เข้าฟังซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงกว่า 120 ท่านว่าใครเป็นคนจ่ายเงินเดือนเรา คนที่เข้าฟังต่างบอกว่าองค์กร ลูกค้า เจ้านาย แต่เมื่อที่จี๊ดโชว์ภาพตู้ ATM หลากสี พี่จี๊ดเลยบอกว่าตู้ ATM เนี้ยเป็นคนที่จ่ายเงินเดือนเรา ต่อให้เราบ่นองค์กรมากแค่ไหน ต่อให้องค์กรผลประกอบการตกต่ำอย่างไร ต่อให้เกลียดหัวหน้าแค่ไหน แต่เมื่อพนักงานส่วนใหญ่เดินมาที่ตู้ ATM กลับกดเงินมาได้จำนวนเหมือนเดิม นั่นเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่าทำไมพฤติกรรมของพนักงานในองค์กรยังไม่ค่อยตื่นตระหนกไปกับ Covid เหมือนกับเจ้าของและผู้ประกอบการ เพราะยังไม่ feel the pain นั่นเอง อาจจะมีต่อที่บริษัทประกาศ Lay-off ไปแล้วซึ่งก็คงสายไปแล้ว
2. Focus on Outcomes, Not Activity พี่จี๊ดถามว่าถ้าองค์กรต้องการผลลัพธ์เป็น 10 จะต้องทำอย่างไร ส่วนมากก็คงบอกว่าก็ต้องเอา 5 + 5 ได้เท่ากับ 10 แต่ในความเป็นจริงแล้วองค์กรจำเป็นที่มองมุมใหม่ เพราะ 9+1 ก็เป็นสิบ ไม่ก็ 11-1 หรือ 5 คูณ 2 ก็เป็น 10 สิ่งสำคัญก็คือในหลายองค์กรเราไม่ได้ทำงานเพื่อสร้างมูลค่าให้เพิ่มขึ้นแต่หลายครั้งการทำงานในองค์กรหรือระหว่างทีมกับลดมูลค่าลง องค์กรที่จะมองแค่เพิ่มมูลค่าโดยวิธีเดิมอาจจะไม่สามารถแข่งขันได้ในอนาคต แต่องค์กรอาจจะจำเป็นที่จะต้องหาตัวคูณไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาองค์กรหรือ Talent หรือ New S-Curve เพื่อที่จะสร้างมูลค่าให้เกิดขึ้น
3. Godfather หรือ จิ๊กโก๋ปากซอย พี่จี๊ดโชว์รูป Al Pacino สมัยที่ยังหล่อมากเพราะคงจะเดาได้ว่าคนฟังคงจะรู้ว่ามาจากหนังเรื่อง The godfather ซึ่งข้อความที่พี่จี๊ดต้องการจะสื่อก็คือเราสามารถทำองค์กรเราให้เป็นอย่าง ก๊อตฟาเธอร์ก็คือมีการสร้าง Talent ในองค์กร มีการวางระบบสืบทอด Successor มี Code of Conduct หรือ Culure หรือเราจะเป็นแค่จิ๊กโก๋ปากซอยคือ ไร้ประสิทธิภาพในการสร้าง Talent ในองค์กร และทำได้ทำทุกอย่างด้วยตัวเองซึ่งคงจะไปได้ไม่ไกลและอยู่ได้ไม่นาน
4. Dynamic stability ในอดีตเรามององค์กรเราในรูปแบบของ Static Stability ซึ่งแทนที่ด้วยรูปเก้าอี้นั่นเอง ขาเก้าอี้จะคงทน ยิ่งอยู่ในอุตสาหกรรมมานาน มักที่จะคิดว่ารู้มากเข้าใจลูกค้าทุกอย่าง ก็จะเกิดความเคลื่อนตัวลำบากและหลงอยู่กับในสิ่งที่เรียกว่า Comfort Zone แต่ในการทำธุรกิจสมัยใหม่ต้องคุ้นชินกับคำที่เรียกว่า Dynamic Stability อุปมาก็เหมือนจักรยานนั่นเองคือจำเป็นที่จะต้องเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอยู่เสมอไม่หยุดนึ่งเพื่อรักษาระดับสมดุลเอาไว้
5. Decode Positivity of Your Leader สิ่งหนึ่งที่ชอบมากและส่วนตัวแล้วเหมือนกับสงสัยว่าพี่จี๊ดทำงานที่ Minor อย่างไรได้นานและประสบความสำเร็จ อีกทั้งสามารถสร้าง DRIVE culture ที่สามารถดึงดูดคนเก่งๆให้มาร่วมงานได้สำเร็จ พี่จี๊ดเล่าให้ทุกคนฟังว่าเมื่อแกมอง CEO ของบริษัท มันก็เหมือนกับเข้าไปในห้องหนังสือห้องสมุดขนาดใหญ่ หน้าที่ของ HR ที่สำคัญก็คือเลือกหนังสือที่ดีมีสาระและสามารถที่จะนำไปสื่อสารต่อได้
แน่นอนที่สุดผู้นำทุกคนมีจุดดีจุดด้อยแต่หน้าที่ของ HR คือเลือกเอาจุดดีออกมาเพื่อสร้าง Next Generation of Leaders ซึ่งมี Character ที่ Drive Performance ออกมาได้ บทบาทหน้าที่ HR มักจะมองข้ามก็คือจะต้องสร้างความรักความผูกพันให้เกิดขึ้นภายในองค์กร ไม่ใช่แค่ทำ Happy Life Happy Family อย่างเดียว แต่แข่งขันอะไรกับใครไม่ได้ แต่ต้องเข้าใจความเป็นตัวตนขององค์กรว่า DNA คืออะไรและสามารถที่จะ Decode แล้วก็ Cloning DNA เหล่านั้นเพื่อสร้างความสำเร็จให้เกิดขึ้นในองค์กรจากรุ่นสู่รุ่น อาจจะไม่ถูกใจคนทั้งหมดแต่ถูกใจ High Performer ในองค์กรก็พอแล้ว
นับว่าเป็นประสบการณ์ที่หาได้ยากที่มีโอกาสได้ขึ้นเวทีกับผู้บริหารที่มีความรู้ในการทำงานจริงผ่านประสบการณ์ตรงแถมยังมีความเชื่อในเรื่องของการสร้าง HR พันธุ์ใหม่ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์กับองค์กร
สุดท้ายต้องขอบคุณพี่จี๊ดที่โอกาสและให้เวลา และเห็นถึงความตั้งใจในการทำงาน ถึงแม้ว่าจะเป็น Inspiring Talk ขนาดเล็กๆแต่เห็นพี่จี๊ด ทุ่มเทในการเตรียมงาน เลยไม่สังสัยว่าทำไมทุกเวที HR จะมีพี่จี๊ดเป็น Keynote Speaker สามารถสร้าง Impact และได้ feedback ที่ดีอยู่เสมอ ขอบคุณครับ
บทความโดย ดร.ณัฐวุฒิ กุลนิเทศ
สถานที่ กรุงศรี IMAX
Comments