top of page
Writer's pictureDr.Nattavut Kulnides

Inspiring Talk with Khun Pattamawalai Ratanapol - Chief Executive Advisor, S&P Syndicate Plc.

Updated: Nov 13, 2020


‘Every day is a crisis, don’t let the crisis go to waste.”


เมื่อพูดถึงพี่จี๊ดหรือคุณปัทมาวลัย รัตนพล แล้ว หลายคนคงนึกถึงผู้บริหารมืออาชีพและ CHRO รุ่นใหญ่ที่สามารถเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรอย่าง Minor Group ให้เป็นบริษัทชั้นนำของโลกที่ไม่ใช่แค่ในประเทศไทย พี่จี๊ดเองถือว่าเป็น HR ต้นแบบให้กับหลายองค์กรในประเทศไทย เห็นได้จากในทุกเวทีถ้าต้องการแนวคิดที่ practical ของ HR แล้ว จะเห็นพี่จี๊ดยืนอยู่ในเวทีมาตลอดระยะเวลา 20 กว่าปี ซึ่งถือว่าไม่ธรรมดาเลย


และเมื่อบริษัทที่ผมเป็นที่ปรึกษาให้อย่าง Siam Piwat เริ่มที่จะทำ Inspiring Talk เพื่อกระตุกต่อมความคิดให้กับผู้บริหารระดับสูงสุดขององค์กร Keynote Speaker ท่านแรกๆที่พวกเรานึกถึงก็คือพี่จี๊ดนั่นเองเพราะว่าในสถานการณ์ covid หลายองค์กรยังงงๆและยังตั้งหลักไม่ถูก แต่ประสบการณ์ที่ผ่านมาสอนให้เราเห็นว่าบางครั้งสิ่งที่น่ากลัวกว่าการไม่รู้ว่าจะทำอะไรก็คือการไม่ลงมือทำอะไรนั่นเอง


หลังจากที่ต้องลุ้นว่าพี่จี๊ดพอจะมีเวลาให้พวกเราหรือไม่ เมื่อพี่จี๊ดคอนเฟิร์มว่ามาได้ ก็ต้องขอบคุณทาง Siam Piwat ที่ไว้ใจให้ผมเป็นผู้ดำเนินรายการและวิทยากรร่วมใน Session ที่มีชื่อว่า Leading High Performing Team in the New Normal ขออนุญาตสรุปใจความสำคัญที่ได้เรียนรู้ใน Session ประมาณ 45 นาทีจากพี่จี๊ด เพราะเนื่องจากเป็น Session ปิดคนข้างนอกเลยไม่มีโอกาสได้ฟัง แต่เลือกเฉพาะเนื้อหาที่พอจะแชร์ได้เพราะคิดว่าน่าจะมีประโยชน์ดังนี้นะครับ


1. Sense of Urgency พี่จี๊ดถามผู้เข้าฟังซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงกว่า 120 ท่านว่าใครเป็นคนจ่ายเงินเดือนเรา คนที่เข้าฟังต่างบอกว่าองค์กร ลูกค้า เจ้านาย แต่เมื่อที่จี๊ดโชว์ภาพตู้ ATM หลากสี พี่จี๊ดเลยบอกว่าตู้ ATM เนี้ยเป็นคนที่จ่ายเงินเดือนเรา ต่อให้เราบ่นองค์กรมากแค่ไหน ต่อให้องค์กรผลประกอบการตกต่ำอย่างไร ต่อให้เกลียดหัวหน้าแค่ไหน แต่เมื่อพนักงานส่วนใหญ่เดินมาที่ตู้ ATM กลับกดเงินมาได้จำนวนเหมือนเดิม นั่นเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่าทำไมพฤติกรรมของพนักงานในองค์กรยังไม่ค่อยตื่นตระหนกไปกับ Covid เหมือนกับเจ้าของและผู้ประกอบการ เพราะยังไม่ feel the pain นั่นเอง อาจจะมีต่อที่บริษัทประกาศ Lay-off ไปแล้วซึ่งก็คงสายไปแล้ว

2. Focus on Outcomes, Not Activity พี่จี๊ดถามว่าถ้าองค์กรต้องการผลลัพธ์เป็น 10 จะต้องทำอย่างไร ส่วนมากก็คงบอกว่าก็ต้องเอา 5 + 5 ได้เท่ากับ 10 แต่ในความเป็นจริงแล้วองค์กรจำเป็นที่มองมุมใหม่ เพราะ 9+1 ก็เป็นสิบ ไม่ก็ 11-1 หรือ 5 คูณ 2 ก็เป็น 10 สิ่งสำคัญก็คือในหลายองค์กรเราไม่ได้ทำงานเพื่อสร้างมูลค่าให้เพิ่มขึ้นแต่หลายครั้งการทำงานในองค์กรหรือระหว่างทีมกับลดมูลค่าลง องค์กรที่จะมองแค่เพิ่มมูลค่าโดยวิธีเดิมอาจจะไม่สามารถแข่งขันได้ในอนาคต แต่องค์กรอาจจะจำเป็นที่จะต้องหาตัวคูณไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาองค์กรหรือ Talent หรือ New S-Curve เพื่อที่จะสร้างมูลค่าให้เกิดขึ้น

3. Godfather หรือ จิ๊กโก๋ปากซอย พี่จี๊ดโชว์รูป Al Pacino สมัยที่ยังหล่อมากเพราะคงจะเดาได้ว่าคนฟังคงจะรู้ว่ามาจากหนังเรื่อง The godfather ซึ่งข้อความที่พี่จี๊ดต้องการจะสื่อก็คือเราสามารถทำองค์กรเราให้เป็นอย่าง ก๊อตฟาเธอร์ก็คือมีการสร้าง Talent ในองค์กร มีการวางระบบสืบทอด Successor มี Code of Conduct หรือ Culure หรือเราจะเป็นแค่จิ๊กโก๋ปากซอยคือ ไร้ประสิทธิภาพในการสร้าง Talent ในองค์กร และทำได้ทำทุกอย่างด้วยตัวเองซึ่งคงจะไปได้ไม่ไกลและอยู่ได้ไม่นาน

4. Dynamic stability ในอดีตเรามององค์กรเราในรูปแบบของ Static Stability ซึ่งแทนที่ด้วยรูปเก้าอี้นั่นเอง ขาเก้าอี้จะคงทน ยิ่งอยู่ในอุตสาหกรรมมานาน มักที่จะคิดว่ารู้มากเข้าใจลูกค้าทุกอย่าง ก็จะเกิดความเคลื่อนตัวลำบากและหลงอยู่กับในสิ่งที่เรียกว่า Comfort Zone แต่ในการทำธุรกิจสมัยใหม่ต้องคุ้นชินกับคำที่เรียกว่า Dynamic Stability อุปมาก็เหมือนจักรยานนั่นเองคือจำเป็นที่จะต้องเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอยู่เสมอไม่หยุดนึ่งเพื่อรักษาระดับสมดุลเอาไว้

5. Decode Positivity of Your Leader สิ่งหนึ่งที่ชอบมากและส่วนตัวแล้วเหมือนกับสงสัยว่าพี่จี๊ดทำงานที่ Minor อย่างไรได้นานและประสบความสำเร็จ อีกทั้งสามารถสร้าง DRIVE culture ที่สามารถดึงดูดคนเก่งๆให้มาร่วมงานได้สำเร็จ พี่จี๊ดเล่าให้ทุกคนฟังว่าเมื่อแกมอง CEO ของบริษัท มันก็เหมือนกับเข้าไปในห้องหนังสือห้องสมุดขนาดใหญ่ หน้าที่ของ HR ที่สำคัญก็คือเลือกหนังสือที่ดีมีสาระและสามารถที่จะนำไปสื่อสารต่อได้


แน่นอนที่สุดผู้นำทุกคนมีจุดดีจุดด้อยแต่หน้าที่ของ HR คือเลือกเอาจุดดีออกมาเพื่อสร้าง Next Generation of Leaders ซึ่งมี Character ที่ Drive Performance ออกมาได้ บทบาทหน้าที่ HR มักจะมองข้ามก็คือจะต้องสร้างความรักความผูกพันให้เกิดขึ้นภายในองค์กร ไม่ใช่แค่ทำ Happy Life Happy Family อย่างเดียว แต่แข่งขันอะไรกับใครไม่ได้ แต่ต้องเข้าใจความเป็นตัวตนขององค์กรว่า DNA คืออะไรและสามารถที่จะ Decode แล้วก็ Cloning DNA เหล่านั้นเพื่อสร้างความสำเร็จให้เกิดขึ้นในองค์กรจากรุ่นสู่รุ่น อาจจะไม่ถูกใจคนทั้งหมดแต่ถูกใจ High Performer ในองค์กรก็พอแล้ว


นับว่าเป็นประสบการณ์ที่หาได้ยากที่มีโอกาสได้ขึ้นเวทีกับผู้บริหารที่มีความรู้ในการทำงานจริงผ่านประสบการณ์ตรงแถมยังมีความเชื่อในเรื่องของการสร้าง HR พันธุ์ใหม่ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์กับองค์กร


สุดท้ายต้องขอบคุณพี่จี๊ดที่โอกาสและให้เวลา และเห็นถึงความตั้งใจในการทำงาน ถึงแม้ว่าจะเป็น Inspiring Talk ขนาดเล็กๆแต่เห็นพี่จี๊ด ทุ่มเทในการเตรียมงาน เลยไม่สังสัยว่าทำไมทุกเวที HR จะมีพี่จี๊ดเป็น Keynote Speaker สามารถสร้าง Impact และได้ feedback ที่ดีอยู่เสมอ ขอบคุณครับ


บทความโดย ดร.ณัฐวุฒิ กุลนิเทศ

สถานที่ กรุงศรี IMAX




300 views0 comments

Comments


bottom of page