ทำไมการหล่อหลอมวัฒนธรรมองค์กร จึงเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญในปี 2021
"วัตถุประสงค์ในแบรนด์ต้องมีความชัดเจน เป็นที่เข้าใจ และแทรกซึมไปทั่วทั้งองค์กร ไม่ว่าจะเป็นกับสิ่งที่จับต้องได้ สิ่งที่ผลิต สิ่งที่พูด และสิ่งที่ทำ"
ในยุคปัจจุบัน ผู้นำต้องวิเคราะห์ อธิบายให้เหตุผล และพยายามที่จะคาดการณ์ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างในปีใหม่ ซึ่งต่างก็ไม่เคยประสบกับความไม่แน่นอน กับสิ่งที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ และผลกระทบที่มีต่อทั่วทุกธุรกิจเช่นนี้
แต่ไม่ว่าจะมีสิ่งที่ไม่สามารถรู้และคาดการณ์ได้ล่วงหน้าก็ตาม ควรมีบางอย่างที่จะสามารถนำทางวิสัยทัศน์ของผู้นำให้ก้าวเข้าสู่ปีใหม่ได้ นั่นคือ
"การที่ผู้นำให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมองค์กร การฟูมฟัก และสรรค์สร้างวัฒนธรรมองค์กรนั้น จะสามารถทำให้บุคลากรและธุรกิจของคุณฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ไปได้"
หลังจากที่ต้องเผชิญกับปีแห่งความไม่แน่นอน ความวุ่นวาย และความไม่สงบในสังคม แต่บริษัทจะสามารถดำเนินงานด้วยพลังที่เข้มแข็งจากภายในต่อไปได้ ไม่เพียงแต่จะมีผลต่อพนักงานและชื่อเสียงของบริษัท แต่ยังส่งผลต่อการเติบโตขององค์กร และกับทุกๆ แง่มุมของธุรกิจของคุณด้วย
เมื่อความสัมพันธ์ภายในองค์กร กลายมาเป็นความสัมพันธ์ภายนอกองค์กร
หลายปีที่ผ่านมา นักการตลาดรู้ว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่จะตัดสินใจซื้อสินค้ากับบริษัทที่ให้คุณค่ากับที่พวกเขาให้ความสำคัญเช่นเดียวกัน แต่เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อ Covid ความจงรักภักดีของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับคุณค่าของสินค้า (value-based consumer loyalty) ยิ่งทำให้เห็นโลกแห่งความเป็นจริงของตลาดมากขึ้น
ในรายงานล่าสุดชี้ว่า 90% ของผู้บริโภคเชื่อว่าแบรนด์ต้องสามารถทำทุกวิถีทางที่จะปกป้องสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน และคู่ค้า (suppliers) รวมทั้งปกป้องความมั่นคงทางการเงินของพวกเขาด้วย ถึงแม้ว่าบริษัทจะต้องประสบกับภาวะขาดทุนมากแค่ไหนก็ตาม จนกว่าการแพร่ระบาดของเชื้อโรคนี้จะสิ้นสุดลง และ 66% ของผู้บริโภคจะพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ เช่น วัฒนธรรมขององค์กร และสวัสดิการของพนักงานเป็นปัจจัยที่ทำให้พวกเขาตัดสินใจซื้อสินค้าแบรนด์นั้นๆ
ดังนั้น การสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์ให้แข็งแกร่งทั่วทั้งองค์กรณ์นั้น จึงกลายเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก
"การที่จะทำให้พนักงานมีส่วนร่วมและดึงดูดลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับคุณค่าสินค้านั้น วัตถุประสงค์ของแบรด์ต้องสามารถนำทางในสิ่งที่องค์กรทำ และต้องมีความชัดเจน เป็นที่เข้าใจ และแทรกซึมไปทั่วทั้งองค์กร ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่จับต้องได้ สิ่งที่ผลิต ที่พูด และสิ่งที่ทำ"
และสิ่งนี้อาจจะเป็นแรงผลักดันทำให้เกิดบางสิ่งบางอย่างที่มีมูลค่ามากกว่าข้อเสนอของบริษัทก็เป็นได้ และทำให้คนเชื่อมั่น ขับเคลื่อนทำให้เกิด Innovation ทั่วทั้งองค์กร ถือว่าเป็นเวลาครั้งสำคัญที่ผู้นำจะประเมินและทบทวนคุณค่า (Value) ขององค์กร เพื่อให้สอดคลองกับวิถีของโลกใหม่ได้
การให้ความสำคัญกับบุคลากรมาเป็นอันดับหนึ่ง ยิ่งก่อให้เกิดผลดีกับธุรกิจ
เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อโรคนี้ยังคงจะดำเนินต่อไป และพนักงานเองก็ยังต้องทำงานจากที่บ้าน การจ้างพนักงานใหม่และรักษาไว้ซึ่งพนักงานปัจจุบันเป็นสิ่งที่ท้าทาย โดยอ้างอิงจากรายงานของ SHRM (The Society for Human Resource Management) พบว่าในปีที่ผ่านมา 1 ใน 5 ของชาวอเมริกันลาออกจากงานเนื่องจากไม่ชอบในวัฒนธรรมองค์กร และการจ้างพนักงานใหม่นั้น องค์กรต้องมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 150% จากฐานเงินเดือนต่อปีของตำแหน่งนั้น
"องค์กรที่ต้องการประสบความสำเร็จหลังจากยุค Covid ต้องทำให้พนักงานรู้สึกว่าพวกเขามีคุณค่า ได้รับการให้เกียรติ รู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร ได้รับการสนับสนุนช่วยเหลืออย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาวิ่งเข้าสู่อ้อมกอดของคู่แข่งที่มีวัฒนธรรมองค์กรที่ดีกว่า"
ในปีใหม่นี้ สิ่งที่ผู้นำต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกคือ ความมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน
"เมื่อองค์กรใส่ใจและดูแลพนักงานอย่างดีแล้ว พวกเขาก็จะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ"
เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่ควรพิจารณาเรื่องสวัสดิการต่างๆ เช่น ความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน และการสื่อสารภายในองค์กร เพื่อให้มั่นใจว่าสิ่งเหล่านี้ตรงกับความต้องการของพนักงาน และควรมีการสำรวจความคิดเห็นของพนักงาน (Staff Feedback) โดยผ่านแบบสำรวจ หรือผ่านทางผู้จัดการสายงาน เพื่อเป็นการสื่อสารให้พนักงานรับรู้ และนำข้อมูลกลับมาสู่การปฏิบัติจริงของผู้นำ
วัฒนธรรมองค์กร คือสิ่งที่ทำให้แตกต่าง
ในช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอน วัฒนธรรมองค์กรที่เข้มแข็งยิ่งมีความสำคัญมากขึ้น เนื่องจากองค์กรจำเป็นต้องใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบทางการแข่งขันที่มีอยู่นี้ จากการสำรวจของ Glassdoor กับคนจำนวน 5,000 คน พบว่า 77% จะพิจารณาถึงวัฒนธรรมองค์กรก่อนที่จะสมัครงานกับองค์กรนั้น และกว่าครึ่งหนึ่งเห็นว่าวัฒนธรรมองค์กรมีความสำคัญมากกว่าเงินเดือน
ในยุคแห่งโลกเสมือนจริงนี้ การสรรค์สร้างและฟูมฟักวัฒนธนธรรมองค์กรนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ท้าทาย องค์กรต้องสารมารถชี้ให้เห็นถึงลักษณะเด่นของวัฒนธรรมองค์กร และสร้างสรรค์ให้เกิดความรู้สึกที่เป็นเสมือนชุมชนขององค์กรนั้น การเชื่อมถึงกัน และพัฒนาวิธีการที่จะนำวัฒนธรรมนี้เข้าสู่โลกออนไลน์ให้ได้ เห็นได้จากในช่วงแรกของการแพร่ระบาด เราได้เริ่มใช้เครื่องมือต่างๆ ที่จะพบเจอ พูดคุย ทำกิจกรรมต่างๆ บนโลกเสมือนจริงร่วมกัน ตอนนี้เราได้ก้าวไปสู่การสร้างสรรค์และนำวัฒนธรรมองค์กรที่มีอยู่เดิมให้กลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง
การยอมรับความแตกต่าง ความเท่าเทียม และการทำให้พนักงานรู้สึกเป็นหนึ่งในองค์กร ไม่ใช่เพียงหน้าที่ของ HR เท่านั้น
ผู้นำควรที่จะรวมมุมมองในด้านนี้ (Diversity, Equity, and Inclusive) เข้าไปอยู่ในวัตถุประสงค์ของแบรนด์ด้วย และให้แทรกซึมไปทั่วทั้งองค์กร
"การที่พนักงานรู้สึกว่าได้ถูกรวมเข้าเป็นหนึ่งในองค์กรนั้น จะช่วยดึงดูดพนักงานรุ่นใหม่ที่มีความสามารถสูงให้อยากเข้ามาร่วมงานกับองค์กร"
การสร้างสรรค์ประสบการณ์ให้กับพนักงานในทุกระดับ ทุกความสามารถ หลอมรวมผู้คนซึ่งเป็นตัวแทนในทุกแง่มุมกับสิ่งที่จะส่งมอบให้กับผู้บริโภค ให้มีส่วนร่วมในขั้นตอนและการบวนการออกแบบด้วย ก็จะยิ่งดึงดูดผู้คนให้เข้ามาสู่แบรนด์มากขึ้น
เส้นทางที่จะก้าวสู่ปีใหม่ของทุกองค์กรนั้น ควรให้ความสำคัญกับการบ่มเพาะและสรรค์สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เข้มแข็ง เพื่อสร้างสุขภาพและการเป็นอยู่ที่ดี รวมทั้งความมีประสิทธิภาพของทีมงาน การลงทุนในครั้งนี้จะทำให้ เชื่อว่าผลตอบแทนที่องค์กรจะได้รับ จะสูงกว่าเงินปันผลในปี 2021 และปีต่อๆ ไปเลยทีเดียว
Source : www.fastcompany.com
Comentários